แต่ก่อนการโปรโมทสินค้าตัวใหม่หรือต้องการเปิดแบรนด์ธุรกิจ เจ้าของธุรกิจมักจะต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่สินค้าด้วยการโฆษณาผ่านดารา-นัดแสดง หรือผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการนั้นๆ เป็นคนโฆษณาให้
ซึ่งถึงแม้ว่าจะให้ผลตอบรับที่ดี แต่การตลาดแนวนี้ก็เป็นวิธีที่ค่อนข้างเก่าแล้วต้องใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ดังนั้นทำให้เกิดการตลาดแนวใหม่ขึ้นมาโดยการโปรโมทผ่านผู้มีชื่อเสียงเช่นกัน แต่จะบุคคลนั้นจะไม่ใช่ดาราหรือนักแสดง แต่เป็นผู้ที่มีอิทธิพลที่สามารถจูงใจให้ผู้ติดตามสามารถคล้ายตามและเชื่อมั่นได้
โดยการตลาดนี้คือการใช้กลยุทธ์ Influencer marketing strategy นั่นเอง
ส่วนใครที่ยังไม่ทราบว่า Influencer คือใคร วันนี้เรามีคำตอบ
Influencer Marketing คือใคร
กลยุทธ์ Influencer Marketing นั้นจะเป็นการทำการตลาดโดยผ่านการโปรโมทโดยตัวกลางหรือบุคคลที่ 3 เหมือนกัน หากมองเผิ่นๆ อาจจะฟังดูคล้ายกับการทำการตลาดโดยใช้ดารา-นักแสดงเหมือนเดิม
แต่จุดที่แตกต่าง คือ เป็นการทำการตลาดที่อาศัยบุคคล หรือกลุ่มคนที่อาจจะไม่ได้เป็นดารา-นักแสดง หรือคนที่มีชื่อเสียงในขณะนั้นๆ แต่เขาเหล่านี้กลับมีอิทธิพลทางความคิด มีความเชี่ยวชาญ มีวิธีการนำเสนอบางอย่างที่ทำให้เกิดผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก
จนสามารถชักนำความคิด หรือ ชักจูงเร่งกระบวนการณ์เพื่อตัดสินใจบางอย่างได้
ซึ่งเราจะเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่า “Influencer” นั่นเอง
Influencer มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?
ระดับของ Influencer แต่ละท่านจะถูกแบ่งประเภทออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ ซึ่งแต่ละระดับจะมีความแตกต่างกันทั้งจำนวนผู้ติดตามและค่าใช้จ่ายต่อโพสต์ ยิ่งมีผู้ติดตามเยอะเท่าไรค่าบริการก็จะสูงขึ้นตามจำนวนผู้ติดตาม ดังนี้
- Nano Influencer (ผู้ติดตามตั้งแต่ 1,000-10,000 คน)
- Micro Influencer (ผู้ติดตามตั้งแต่ 10,000-50,000 คน
- Mid-Tier Influencer (ผู้ติดตามตั้งแต่ 50,000-100,000 คนขึ้นไป)
- Macro Influencer (มีผู้ติดตามตั้งแต่ 100,000-1,000,000 คนขึ้นไป)
- Mega Influencer (มีผู้ติดตามตั้งแต่ 1,000,000 คนขึ้นไป)
**นอกจากนี้ Influencer ยังถูกแบ่งออกตามความเชี่ยวชาญต่างๆ อีกด้วย เช่น สายอาหาร สายกีฬา สายท่องเที่ยว ฯลฯ เป็นต้น
ทำไมการจ้าง Influencer ถึงดีกว่าการจ้างดารา-นักแสดง?
สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่า การจ้าง Influencer เพื่องาน Marketing นั้นมีความแตกต่างอย่างไร และมีข้อดีกว่าการจ้างดารา-นักแสดงที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วได้อย่างไร? วันนี้เราจะมาสรุปเป็นข้อๆ ให้ฟัง
- มีผู้ติดตามเป็นของตัวเอง และส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ติดตามที่ได้จาก Organic หรือติดตามเพราะชื่นชอบตัว ซึ่งผู้ติดตามเหล่านี้จะช่วยให้สามารถจัดลำดับของกลุ่มเป้าหมายสินค้าของธุรกิจได้ว่า มีแนวโน้มหรือจะกลายเป็นผู้บริโภคของธุรกิจได้หรือ
- มีอิทธิพลทางความคติดและการตัดสินใจแก่กลุ่มผู้ติดตามและผู้บริโภคได้ค่อนข้างเยอะ เพราะส่วนใหญ่ Influencer มักจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านชัดเจน ทำให้เวลาเผยแพร่ข้อมูล หรือแนะนำอะไรก็จะทำให้คนคล้อยตามได้ง่าย
- มีแนวทางการทำคอนเทนต์ หรือมีตัวตนค่อนข้างชัดเจน ทำให้สามารถช่วยแยกประเภทสินค้าได้ และทำให้เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกได้ว่า ลงสินค้ากับ Influencer เจ้าไหนจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด
- ส่วนใหญ่มักจะเป็นบุคลธรรมดาที่มีชื่อเสียงเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่เป้นผู้มีชื่อเสียงโดยทั่วไปเหมือนเหล่าดารา-นักแสดง ทำให้ในมุมมองของผู้ติดตามหรือผู้บริโภาคแล้วจะตอบโจทย์ความน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะเหมือนเป็นประสบการณ์การใช้สินค้า หรือใช้บริการจากผู้ที่ใช้งานจริงๆ และเกิดการบอกปากต่ออปากได้ดีกว่า
- มีช่องทางการโปรโมทหลายช่องทางใน Social Media เช่น Facebook Instagram TikTok Youtube และ Twitter ทำให้การจ้าง Influencer ท่านเดียว สินค้าของคุณก็สามารถกระจายไปแผยแพร่ในช่องทางอื่นๆ ได้อีกมากมาย
- ช่วยลดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้าง Influencer ต่อโพทส์ ถ้าเทียบกับการจ้างดารา-นักแสดงแล้วจะมีราคาที่ถูกกว่า และยังช่วยลดค่าโฆษณายิงแอด (ADS) ได้ด้วยเพราะสินค้าได้กระจายไปตามช่องทางของ Influencer ท่านนั้นๆ แล้ว
นอกจากบทความแล้วทาง M Creation ของเรายังมีบริการ รับทำ TikTok Ads และ Google Ads ให้ท่านที่ต้องการโฆษณาทาง Tiktok ได้ใช้บริการอีกด้วย
การใช้ Influencer marketing ข้อเสียที่ควรระมัดระวัง
สำหรับใครที่คิดจะจ้าง Influencer เพื่อโปรโมทสินค้านั้เป้นสิ่งที่ดี แต่การใช้ influencer marketing ข้อเสียที่ควรระมัดระวัง คือ ไม่ควรเลือกแต่เน้นราคาถูกและปริมาณเยอะๆ
เพราะถึงแม้ว่าจะราคาต่อโพตส์ถูก และสามารถโปรดมทในช่องทางเยอะๆ ก็จริงแต่หากไม่ตรงต่อกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงต่อภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าก็อาจจะทำให้สื่อสารของสินค้าหรือแบรนด์เสียหาย และไม่สามารถเพิ่มยอดขายได้ตามที่ต้องการ
ควรเลือก Influencer แบบไหนถึงจะดีที่สุด
สำหรับใครที่คิดจะจ้าง Influencer เพื่อโปรโมทสินค้านั้นควรให้ความสำคัญกันหลักการดังนี้
- ควรเลือก Influencer ที่มีความน่าเชื่อถือ และมีภาพลักษณ์ดูดีเหมาะสมกับสินค้า
- เนื้อหาคอนเทนต์ที่ Influencer ลงนั้นมีเนื้อหาแนวไหน เป็นโพสต์รูป หรือวีดีโอ วิธีการนำเสนอและภาษาที่ใช้ว่ามีความสอดคึล้องกับแบรนด์หรือสินค้าที่ต้องการหรือไม่?
- ตรวจดูคุณภาพของผู้ติดตาม (Follower) ของ Influencer นั้นๆ ว่ามีลักษณธที่จะสามารถเป็นผู้บริโภคหรือมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นผู้บริโภคของแบรนด์ได้หรือไม่
M Creation แนะนำ
นอกจากบทความนี้แล้วแล้วยังมี บทความที่เกี่ยวกับ ส่องการตลาดตามเทรน TikTok Influencers, บริการจัดหา Tiktok Influencer ให้ท่านที่สนใจ ได้ใช้บริการอีกด้วย
ตัวอย่าง Influencer marketing ชื่อดังในประเทศไทย
อันนี้เป็นตัวอย่าง Influencer ที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ สามารถลองชมตัวอย่างได้ ดังนี้
Influencer marketing ในไทย สายอาหาร
- EaterOat
- PEACH EAT LAEK
Influencer marketing ในไทย สายท่องเที่ยว
- อาสาพาไปหลง
- เถื่อน Travel
- i roam alone
Influencer marketing ในไทย สายเกม
- กิต งาย
- zbing z.
Influencer marketing ในไทย สายออกกำลังกาย
- Booky HealthyWorld
- hutchiew
Influencer marketing ในไทย สายสกินแคร์
- ingck
- บริ้งตี้ (Brinkkty)
- น้อยหนึ่งเมคอัพ (noyneung makeup)
- โมเมพาเพลิน