7 แอปแต่งสตอรี่ไอจี วิดีโอ มาดูกันครึ่งปีหลังแอปไหนปังบ้าง

Table of Contents

แอปแต่งสตอรี่ไอจี วิดีโอ เรียกได้ว่ายุคนี้เป็นยุค Content ครองเมืองไปแล้วก็ว่า เพราะไม่ว่าใครจะหยิบจับอะไรก็นำมาสร้าง Content ในชีวิตประจำวันได้อย่างมากมาย รวมไปถึงเหล่าแบรนด์ธุรกิจต่างๆ ที่มีความคิดว่าจะขายของในไอจียังไงให้ปัง ก็มักจะสร้างเนื้อหาเพื่อตีตลาดกลุ่มเป้าหมายเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีหากจะกล่าวถึงแพลตฟอร์มที่หลายๆ คนมักจะแชร์เรื่องราวของตนเองในแต่ละวัน ก็คงหนีไม่พ้น Instagram ที่นอกจากจะมีฟีเจอร์ reels instagram แล้วยังมีฟีเจอร์อย่าง Story ไว้โพสต์วิดีโอสั้นๆ เพื่อแชร์โมเม้นท์ต่างๆ ระหว่างวัน

ขอบคุณรูปภาพจาก : mvrobeauty

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในตอนนี้ถ้าโพสต์วิดีโอสั้นๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรก็คงน่าเบื่อแย่ ดังนั้นจึงมีแอปพลิเคชันต่างๆ ที่สามารถแต่งสตอรี่ให้มีความโดดเด่นและมีลูกเล่นมากขึ้นได้ด้วย ซึ่งจะมีแอปอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

แอปแต่งสตอรี่ ดียังไง ทำไมหลายๆ คนจึงเลือกใช้?

แอปแต่งสตอรี่ไอจี คืออีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญที่เหล่าครีเอเตอร์ขาดไม่ได้ เพราะสามารถช่วยให้เหล่านักสร้างคอนเทนต์ในสตอรี่ไอจีออกแบบเรื่องราวของคุณได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นปรับแต่งรูปภาพ วิดีโอสั้น ข้อความตัวอักษรต่างๆ เพิ่มลูกเล่นให้สตอรี่ไอจีของคุณน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งเรามาดูกันดีกว่าว่าแอปต่างๆ ดังกล่าวที่น่าสนใจ ใช้ง่าย ตกแต่งสวย มีแอปไหนบ้าง

7 แอปแต่งสตอรี่ไอจี 2022 แอปไหนใช้ง่าย ใช้ดี ไม่ Out of trend

แอปพลิเคชันตกแต่งสตอรี่ที่น่าสนใจ ใช้แล้วไม่ตกเทรนด์ มีดังนี้

01 : StoriesEdit

เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน เพราะความมินิมอลและความน่ารักในแอปเดียว เพราะนอกจากเราจะเลือกเทมเพลตที่ชอบได้แล้ว เรายังสามารถเปลี่ยนสีพื้นหลัง เปลี่ยนสีไอเทมต่างๆ ที่ใช้ตกแต่งได้อีกด้วย

02 : Unfold

แอปแต่ง IG Story ที่เหมาะกับผู้ที่มีอาชีพขายของออนไลน์โดยเฉพาะ เพราะตอบโจทย์มากๆ มีเทมเพลตแต่งสตอรี่ไอจีฉบับแม่ค้าออนไลน์คุมโทนร้านให้เลือกใช้มากมาย สามารถใส่ข้อความสวยๆ บนรูปได้ และถ้าใครอยากลงสตอรี่แบบใส่ทั้งรูป ใส่ทั้งวิดีโอ รีวิวสินค้า แอปนี้ก็ทำได้เช่นกัน

03 : Nichi

ต้องบอกว่าเป็นแอปที่มีเทมเพลตให้เลือกมากมาย โดยเทมเพลตส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์เกาหลี คุมโทน มีกรอบรูปหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นกรอบแบบโพลารอยด์ หรือกรอบสีเรียบๆ ที่ช่วยให้สตอรี่ดูโดดเด่นมีลูกเล่นมากขึ้น

04 : StoryArt

นอกจากจะมีความมินิมอลแล้ว แอปนี้ก็มีเทมเพลตแบบ Animated มีลูกเล่นแบบให้ตัวอักษรและภาพเลื่อนเข้าเลื่อนออกได้อีกด้วย และสำหรับฟอนท์ตัวหนังสือสำหรับตกแต่งนั้นก็มีให้เลือกเยอะเช่นกัน

05 : Storyluxe

สำหรับใครที่ชื่นชอบรูปโทนฟิล์ม ต้องบอกก่อนเลยว่าแอปนี้มีความตอบโจทย์มากๆ เพราะเทมเพลตที่แอปนี้มีให้จะเป็นฟิล์มสไตล์ต่างๆ มากมายเลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครแต่งสีรูปโทนฟิล์มไม่เป็นก็ไม่ต้อกังวล เพราะแอปนี้ก็มีก็ฟิลเตอร์โทนฟิล์มให้แต่งรูปด้วย ซึ่งเหมาะมากกับภาพสตรีทสไตล์มากๆ

06 : YourStory

สามารถตกแต่งรูปภาพ พื้นหลัง ข้อความ ได้หลากหลายสไตล์ อาทิ เรียบง่าย หรูหรา ที่คุณใส่ได้ทั้งภาพและวิดีโอขั้นตอนแสนง่ายในไม่กี่นาที

07 : Instories

สามารถใช้เทมเพลตดีไซเนอร์สำเร็จรูปมากกว่า 500 แบบ สร้างภาพปะติดที่ทันสมัย ออกแบบเนื้อหาที่เหมาะกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลัก ๆ เช่น Instagram, TikTok, Facebook, Snapchat และอื่นๆ

M Creation แนะนำ

นอกจากบทความแล้วทาง M Creation ของเรายังมีบริการ รับทำ TikTok Ads, Google Ads และ ยิงแอดไอจี ให้ท่านที่สนใจได้ใช้บริการอีกด้วย

แอปแต่งสตอรี่ไอจี ใส่เพลง ได้ มีแอปไหนบ้าง?

สำหรับในปัจจุบัน การเพิ่มเพลงลงวิดีโอในไอจีสตอรี่สามารถทำได้แล้ว เพียงแค่เพิ่มวิดีโอตามปกติหลังจากนั้นให้กดอิโมจิคอนหน้าสติกเกอร์และเลือกฟีเจอร์เพลง เพียงเท่านี้ก็สามารถเพิ่มเพลงในสตอรี่ได้ตามต้องการ

อย่างไรก็ตาม นอกจากในตัว Instagram ที่สามารถเพิ่มเพลงได้เองแล้ว ก็มีแอปอื่นๆ ที่สามารถทำได้เช่นกัน คือ

StoryBeat-Stories

โดยแอปพลิเคชันนี้สามารถเพิ่มเพลงโปรดของผู้ใช้ลงในวิดีโอและภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะมีหลายล้านเพลงจากศิลปินชั้นนำให้เลือกในทุกๆ แนวเพลงเพราะ StoryBeat มีคลังเพลงขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมดนตรีเกือบทุกแขนงเพื่อผู้ใช้

วิธีแต่งสตอรี่ไอจี แต่งยังไงให้ดูสวยและโดดเด่น

จากที่กล่าวไปว่า การลงรูปเพียวๆ อาจจะไม่น่าสนใจเท่าไหร่ ดังนั้นการ Up Level สตอรี่ให้ดูน่าสนใจมากขึ้น คือการหาเทรนด์ฟิลเตอร์ที่กำลังเป็นกระแสและตกแต่งสตอรี่กับบรรดาสารพัด GIF ตกแต่งที่ความยากของมันอยู่ที่ Keyword ที่ใช้ในการค้นหา ว่าจะนำพาให้เราได้เจอกับ GIF ที่ใช่ GIF ที่ถูกใจกันไหม คือโดยปกติเราอาจจะค้นหาด้วยอะไรง่าย ๆ อย่างเช่น Heart, Funny หรือจะใช้คำที่เกี่ยวข้องกับสตอรี่ของเรากันเป็นหลักด้วย

FAQ คำถามที่พบบ่อย

จากทั้ง 7 แอปที่กล่าวมา ก็มีอีกหลายๆ แอปที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี และสามารถเลือกได้ว่าจะสมัครสมาชิกเพื่อใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ในแอปนั้นๆ หรือไม่ หากผู้ใช้ต้องการสมัครกสามารถเลือกราคาได้ตามเหมาะสม ซึ่งบางแอปก็จะมีการแบ่งราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่หากดาวน์โหลดเพื่อนำไปใช้บนโทรศัพท์มือถือก็สามารถค้นหาได้จาก App Store และ Google play

Reels ของ Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่มีวิธีใช้งานคล้ายกับ Story บน Instagram เลย เพราะมีลูกเล่นค่อนข้างคล้ายกัน เลยทำให้ผู้ใช้รู้สึกคุ้นชินได้เร็ว โดยมีขั้นตอนเริ่มต้น ดังนี้

  • Search and select audio: ไอคอนรูปโน้ตเพลงที่ใช้เสิร์ชหรือเลือกเพลงมาใส่ในคลิป
  • Length: ความยาวคลิป 15s, 30s และ 60s
  • Layout: เลย์เอาท์ในการวางภาพแบ่งเป็นหลายช่องได้
  • Timer: ระยะเวลาในการนับเคาท์ดาวน์ก่อนกดเรคคอร์ด มีให้เลือก 3s และ 10s
  • AR Effect: เอฟเฟกต์ AR แบบเสมือนจริง
  • Upload: ไอคอนกรอบรูปพร้อมเครื่องหมายบวกมุมซ้ายล่าง มีไว้สำหรับอัปโหลดภาพและคลิปได้ หรือจะเลือกรูปมาทำ Green Screen ก็ได้
  • Start Recording: ไอคอนรูปสเลท มีไว้เพื่อกดเรคคอร์ดคลิป

การตัดต่อ Reel นั้นไม่ยาก ยิ่งถ้าหากใครเคยเล่นไอจีสตอรี่หรือ Tiktok มาแล้ว ก็จะคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยวิธีการถ่ายจะคล้ายๆ การถ่ายไอจีสตอรี่ และมีฟิลเลอร์ต่างๆ ให้เลือกใช้ ผู้ใช้สามารถเลือกได้ตามใจชอบ แต่การตัดต่อ Reel ภายใน Instagram นั้น อาจจะไม่ได้มีเอฟเฟคเพื่อสร้าง Transition ที่ดูจริงจังมากนัก ดังนั้นอาจจะต้องพึ่งเทคนิคการถ่ายและการสร้างสรรค์ของผู้ใช้เป็นหลักเพื่อให้ Reel นั้นๆ ดูมีความโดดเด่นมากขึ้น

‘Stories IG’ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบันเลือกใช้เพื่อโปรโมทแบรนด์หรือสินค้าของตัวเอง เพราะโพสต์แค่รูปภาพหรือวิดีโออย่างเดียวมันไม่พอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่าบรรดาผู้ขายออนไลน์ต้องมีเทคนิคตกแต่งสตอรี่เพื่อดึงดูดลูกค้านั่นเอง เช่น

  • ใช้ ‘Brush’ วาดตกแต่งพื้นหลัง Stories IG
  • ใส่สติกเกอร์ ‘Support Small Business’ เพื่อให้ลูกค้ารู้จักร้านของคุณ
  • ตกแต่งด้วย ‘Gif’ เพื่อเพิ่มลูกเล่น
  • เพิ่ม ‘Music’ ให้ Stories IG ดูโดดเด่นและทำให้ลูกค้ามีอารมณ์ร่วมมากขึ้น
  • เปลี่ยนให้ Accout IG  ของให้เป็นสาธารณะ
  • เลือกเพลงจาก  Instagram ต้องการให้คนใช้เพลงที่มีอยู่บน Instagram มากกว่าเพลงจากที่อื่น (สิ่งนี้ช่วยให้ Reels ถูกพบเห็นง่ายขึ้น)
  • การใส่ #tag เปรียบเสมือนใบเบิกทางอีกช่องทางหนึ่ง โดยผู้ใช้ต้องทำการใช้ tag ยอดนิยมเพื่อทำให้ถูกเข้าถึงง่ายมากขึ้น
  • เลือกเวลาลง ให้วิเคราะห์จากกลุ่มเป้าหมายว่าเราควรลงเวลาไหนที่เป็นช่วงที่กลุ่มคนที่เราต้องการให้เห็นเล่น Reel มากที่สุด
Share :

เรื่องการตลาดออนไลน์ ที่เราคิดว่าคุณควรต้องรู้!

ลองอ่านดู เราเชื่อว่าคุณจะได้อะไรดีๆกลับไป เพื่อพัฒนาธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน